ฝนฝืนฟ้า

วรรณศิลป์แม่ค้า :


ถ้าถามคอกาแฟโบราณ ย่านพุทธมณฑลสาย 2 ฝั่งศาลาธรรมสพน์ คงไม่มีใครไม่รู้จักป้าแม่ค้าคนนี้ แกจอดรถเข็นขายกาแฟอยู่ปากซอย 34 ฝีมือชงกาแฟและเครื่องดื่มพวก ชาเย็น นมเย็น ของป้าถึงรสถึงชาติดีมาก กาแฟถุงหนึ่ง ชาวบ้านร้านอื่นเขาขาย 20 บาท แต่ป้ายังยืนพื้น 18 บาท ถ้าเผลอสั่งโอเลี้ยง ก็จะรู้ว่าถุงแค่ 15 บาท

ผมส่งแบงค์ 20 ให้ แล้วสำทับทุกทีที่แกจะทอนว่า “ไม่ต้องทอนหรอกป้า ช่วยกันทำมาหากินครับ"


คืนหนึ่ง ปลายเดือนธันวาคม 57 ผมกำลังจะนอนอยู่แล้ว ฝนก็ดันโปรยลงมาเหมือนจะหยอกเอินกันเล่น ผมรีบออกไปเก็บผ้าที่ระเบียง เช็ดหัวที่เปียกนิดหน่อยแล้วล้มตัวนอน ตื่นเช้ามาก็รู้สึกตัวครั่นเนื้อครั่นตัว แล้วก็สะบัดร้อนสะบัดหนาวอยู่อย่างนั้นทั้งวัน ต้องประคองมันไว้ด้วยพาราเซตามอล


วันต่อมาผมปรารภเรื่องนี้ให้ป้าแกฟังว่า “ฝนหลงฟ้านี่มันเอาเชื้อโรคมาด้วยเนาะป้า คืนก่อนผมโดนฝน เมื่อวานจับไข้ทั้งวันเลย"


ป้าแกก็เสริมว่า “ใช่ ฝนฝืนฟ้า มันจะหอบโรคภัยไข้เจ็บมาด้วย ต้องระวังหน่อย"


อืมมมม... “ฝนฝืนฟ้า” ป้าเล่นคำซะสวยเชียว


ผมเก็บคำนี้มาละเลียดกับกาแฟ และตีความอยู่นานมาก นึกถึงคำที่ตัวเองใช้คือ “ฝนหลงฟ้า” เทียบกับคำว่า “ฝนฝืนฟ้า” ที่ป้าแกใช้ ผมถึงกับขนลุกเกรียว


“ฝนฝืนฟ้า” มีนัยยะลึกล้ำและเข้ากับปัจจุบันมาก


--ขอตัวไปซื้อกาแฟก่อนนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น